เมื่อ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๓.๕๐ น. คณะผู้บริหาร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ทำสามีจิกรรม เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษาแด่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช โดยมีพระราชปริยัติกวี, ศ.ดร. อธิการบดี มจร เป็นประธานนำสามีจิกรรม ณ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
ในการนี้ พระโสภณวชิราภรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ นำผู้บริหาร อาจารย์ และบุคลากรวิทยาลัยพระธรรมทูต และกองวิเทศสัมพันธ์ มจร ร่วมกระทำสามีจิกรรมด้วย
การทำสามีจิกรรมเป็นธรรมเนียมของสงฆ์อย่างหนึ่งที่ภิกษุสามเณรพึงทำความชอบต่อกันเพื่อความสามัคคีกัน อยู่ร่วมกันโดยสงบสุข การทำความชอบนี้เรียกว่าสามีจิกรรมหมายถึงการขอขมาโทษกัน ให้อภัยกันทุกโอกาส ไม่ว่าจะมีโทษขัดข้องหมองใจกันหรือไม่ก็ตาม ถึงโอกาสที่ควรทำสามีจิกรรมกันแล้ว ทุกรูปไม่พึงละโอกาสเสีย จึงได้ชื่อว่าเป็นภิกษุสามเณรที่ดี ปฏิบัติชอบตามระบอบพระธรรมวินัย สำหรับโอกาสที่ควรทำสามีจิกรรมนั้น มีดังนี้
๑. ในวันเข้าพรรษา ทั้งภิกษุสามเณรที่อยู่ร่วมวัดเดียวกันควรทำสามีจิกรรมต่อกันเรียงตัวตั้งแต่ผู้มีอาวุโสมากที่สุดถึงสามเณรรูปสุดท้ายในวัด ไม่ควรเว้น เพื่อความสามัคคี
๒. ในระยะเข้าพรรษา เริ่มแต่วันเข้าพรรษาและหลังวันเข้าพรรษา ระยะเวลาประมาณ 7 วัน ควรทำสามีจิกรรมต่อท่านที่ตนเคารพนับถือ ซึ่งอยู่ต่างวัด
๓. ในโอกาสจะจากกันไปอยู่วัดอื่นหรือถิ่นอื่น นิยมทำต่อท่านผู้มีอาวุโสกว่าตนในวัดและต่อท่านที่เคารพนับถือทั่วไป
ข่าว : วิทยาลัยพระธรรมทูต, พระมหาวิเชียร สุธีโร
รายงาน: พระมหาสมาน ชาตวิริโย, ดร.
ภาษาอังกฤษ : พระสิริวรรณะ สิริวณฺโณ
ภาพ : วิทยาลัยพระธรรมทูต, นายลิขิต บุญละคร
On 7 July 2563/2020, at 13.50 p.m., MCU pays Samijikamma to Somdet Phrabutthajarn(Keaw Upasena), former Acting Supreme Patriarch of Thailand and Abbot of Wat Saket Ratcha Wora Maha Wihan, at Bangkok.
การทำสามีจิกรรมเป็นธรรมเนียมของสงฆ์อย่างหนึ่งที่ภิกษุสามเณรพึงทำความชอบต่อกันเพื่อความสามัคคีกัน อยู่ร่วมกันโดยสงบสุข การทำความชอบนี้เรียกว่าสามีจิกรรมหมายถึงการขอขมาโทษกัน ให้อภัยกันทุกโอกาส ไม่ว่าจะมีโทษขัดข้องหมองใจกันหรือไม่ก็ตาม ถึงโอกาสที่ควรทำสามีจิกรรมกันแล้ว ทุกรูปไม่พึงละโอกาสเสีย จึงได้ชื่อว่าเป็นภิกษุสามเณรที่ดี ปฏิบัติชอบตามระบอบพระธรรมวินัย สำหรับโอกาสที่ควรทำสามีจิกรรมนั้น มีดังนี้
๑. ในวันเข้าพรรษา ทั้งภิกษุสามเณรที่อยู่ร่วมวัดเดียวกันควรทำสามีจิกรรมต่อกันเรียงตัวตั้งแต่ผู้มีอาวุโสมากที่สุดถึงสามเณรรูปสุดท้ายในวัด ไม่ควรเว้น เพื่อความสามัคคี
๒. ในระยะเข้าพรรษา เริ่มแต่วันเข้าพรรษาและหลังวันเข้าพรรษา ระยะเวลาประมาณ 7 วัน ควรทำสามีจิกรรมต่อท่านที่ตนเคารพนับถือ ซึ่งอยู่ต่างวัด
๓. ในโอกาสจะจากกันไปอยู่วัดอื่นหรือถิ่นอื่น นิยมทำต่อท่านผู้มีอาวุโสกว่าตนในวัดและต่อท่านที่เคารพนับถือทั่วไป
ข่าว : วิทยาลัยพระธรรมทูต, พระมหาวิเชียร สุธีโร
รายงาน: พระมหาสมาน ชาตวิริโย, ดร.
ภาษาอังกฤษ : พระสิริวรรณะ สิริวณฺโณ
ภาพ : วิทยาลัยพระธรรมทูต, นายลิขิต บุญละคร
On 7 July 2563/2020, at 13.50 p.m., MCU pays Samijikamma to Somdet Phrabutthajarn(Keaw Upasena), former Acting Supreme Patriarch of Thailand and Abbot of Wat Saket Ratcha Wora Maha Wihan, at Bangkok.
การทำสามีจิกรรมเป็นธรรมเนียมของสงฆ์อย่างหนึ่งที่ภิกษุสามเณรพึงทำความชอบต่อกันเพื่อความสามัคคีกัน อยู่ร่วมกันโดยสงบสุข การทำความชอบนี้เรียกว่าสามีจิกรรมหมายถึงการขอขมาโทษกัน ให้อภัยกันทุกโอกาส ไม่ว่าจะมีโทษขัดข้องหมองใจกันหรือไม่ก็ตาม ถึงโอกาสที่ควรทำสามีจิกรรมกันแล้ว ทุกรูปไม่พึงละโอกาสเสีย จึงได้ชื่อว่าเป็นภิกษุสามเณรที่ดี ปฏิบัติชอบตามระบอบพระธรรมวินัย สำหรับโอกาสที่ควรทำสามีจิกรรมนั้น มีดังนี้
๑. ในวันเข้าพรรษา ทั้งภิกษุสามเณรที่อยู่ร่วมวัดเดียวกันควรทำสามีจิกรรมต่อกันเรียงตัวตั้งแต่ผู้มีอาวุโสมากที่สุดถึงสามเณรรูปสุดท้ายในวัด ไม่ควรเว้น เพื่อความสามัคคี
๒. ในระยะเข้าพรรษา เริ่มแต่วันเข้าพรรษาและหลังวันเข้าพรรษา ระยะเวลาประมาณ 7 วัน ควรทำสามีจิกรรมต่อท่านที่ตนเคารพนับถือ ซึ่งอยู่ต่างวัด
๓. ในโอกาสจะจากกันไปอยู่วัดอื่นหรือถิ่นอื่น นิยมทำต่อท่านผู้มีอาวุโสกว่าตนในวัดและต่อท่านที่เคารพนับถือทั่วไป
ข่าว : วิทยาลัยพระธรรมทูต, พระมหาวิเชียร สุธีโร
รายงาน: พระมหาสมาน ชาตวิริโย, ดร.
ภาษาอังกฤษ : พระสิริวรรณะ สิริวณฺโณ
ภาพ : วิทยาลัยพระธรรมทูต, นายลิขิต บุญละคร